วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ยาดีใกล้ตัว


        เมื่อคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้และทดลองวิธีบำบัดต่างๆ ด้วยตนเอง คุณอาจนึกถึงตำรับยาและเคล็ดลับเก่าแก่ประจำตระกูล ที่เคยใช้ได้ผลมานักต่อนัก แต่ปัจจุบันเราคุ้นเคยกับการตรวจเลือด การเอ๊กซเรย์ การใช้ยาที่แพทย์สั่งให้ และวิทยาการสมัยใหม่ จนหลงลืมภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไป ทั้งที่วิธีการเยียวยาเหล่านั้นได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากคนรุ่นแล้วรุ่นเล่าว่าใช้ได้ผลจริง และยังใช้ได้ผลดีในปัจจุบัน เกร็ดและเคล็ดลับต่างๆ ที่เราได้รับตกทอดมา เช่น การใช้ถุงชาประคบดวงตาที่เหนื่อยล้า หรือใช้น้ำเกลือบ้วนปากเพื่อรักษาแผลในปาก ยังคงได้ผล แม้วิธีการเหล่านี้จะไม่สามารถใช้แทนการรักษาสมัยใหม่ แต่ก็สามารถบรรเทาอาการต่างๆ ให้หายเร็วขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้อาการเล็กๆ น้อยๆ ลุกลามเป็นอาการที่ร้ายแรง

        คุณจะรู้สึกยินดีเมื่อได้เห็นแผลไหม้อาการดีขึ้นมากหลังจากที่รักษาด้วยวุ้นจากว่านหางจระเข้ หรือเมื่อรู้สึกว่าความเครียดเลือนหายไปหลังสูดดมน้ำมันหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ แน่นอนความพึงใจไม่ใช่เหตุผลที่แพทย์ยังใช้วิธีการบำบัดเหล่านี้ แต่เป็นเพราะวิธีการเหล่านี้ใช้ได้ผลจริงๆ

        รู้หรือไม่ว่าร้อยละ 25 ของยาชนิดต่างๆ ที่คุณใช้อยู่เป็นประจำในปัจจุบันมีสารออกฤทธิ์คล้ายหรือเหมือนกับสารที่พบในพืชหลากหลายชนิด เป็นต้นว่า สารออกฤทธิ์ในแอสไพรินซึ่งเป็นยาที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลกนั้น เดิมทีสกัดได้จากเปลือกต้นไวท์วิลโลว์ (white willow) ส่วนสารเอฟีดรีน (ephedrine) ที่ใช้ยาขยายหลอดลมนั้นได้จากต้นเอฟีดรา (ephedra) ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับต้นมาฮวงของจีน ส่วนดิจิตาลิส (digitalis) ซึ่งเป็นยากระตุ้นหัวใจนั้น ก็ได้มาจากต้นฟ็อกซ์โกลฟ (foxglove) และยาแพคลิแท็กเซล (paclitaxel) ที่ใช้รักษามะเร็งก็ได้จากต้นยิวแปซิฟิก (yew tree) ที่จริงแล้ว ปัจจุบันบริษัทยาใหญ่ๆ มักส่งทีมนักวิทยาศาสตร์ไปยังพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก เพื่อตามล่าสารเคมีที่อาจใช้เป็นยาได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น