แม้ว่าการแพทย์ในปัจจุบันอาจทำให้เราลืมการบำบัดแบบดั้งเดิมไปบ้าง
แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ลืมวิธีการเหล่านี้เลย
แพทย์ยังคงใช้การบำบัดด้วยการประคบร้อนและเย็น
ซึ่งเป็นเทคนิคที่ชาวอเมริกันพื้นเมืองใช้มาก่อน และมักให้ผลดีกว่ายา
ทั้งยังไม่มีผลข้างเคียง แผลที่โดนมีดทำครัวบาดเอา แม้จะหายได้เร็วกว่าถ้าทายาฆ่าเชื้อ
แต่เมื่อเคลือบด้วยน้ำผึ้ง ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน และยังอาจช่วยให้หายเร็วขึ้นด้วย
(ควรล้างแผล โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านแผลมากพอสมควร แล้วจึงทายาใดๆ ที่แผล)
มอลลี
ฮอปกินส์ นักออกแบบภูมิสถาปัตย์ ได้ค้นพบว่าการบำบัดทางเลือก
ได้ผลกว่าการรักษาแผนปัจจุบัน “เมื่อก่อนนี้ทุกครั้งที่ฉันเป็นหวัด
ก็จะเป็นไซนัสอักเสบทุกครั้งเลย และต้องกินยาปฏิชีวนะด้วย”
เธอเล่าว่ามีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นหมอประจำบ้านแนะนำให้เธอกินเอคิเนเซียทันทีที่เริ่มมีอาการคัดจมูก
“ตั้งแต่นั้นมาฉันไม่เป็นหวัดอย่างรุนแรงอีกเลย และไม่เคยเป็นไซนัสอักเสบเลยด้วย”
มอลลีพูด
คนส่วนใหญ่ใช้การแพทย์แผนโบราณรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ
น้อย
แต่แพทย์ในสถาบันวิจัยชั้นนำเริ่มสังเกตเห็นว่าวิธีการเหล่านี้ใช้รักษาโรคที่รุนแรงได้ด้วย
ตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน
ขณะที่ผู้คนมากมายต้องฉีดยาหรือกินยาเพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้คงที่ แต่คนที่กินกระเทียมวันละกลีบทุกวัน
อาจพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งลดปริมาณยาที่ต้องใช้ด้วย
โรคซึมเศร้าก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่มักต้องพึ่งยา
แต่มีการศึกษาที่พบว่าสมุนไพรเซนต์จอห์นสเวิร์ต (St. John’s wort) ใช้ได้ดีพอๆ กับยาที่รักษาอาการซึมเศร้าอย่างอ่อนจนถึงปานกลาง
ตัวยาที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในปัจจุบัน
คือ โยเกิร์ตที่นิยมใช้รักษาอาการติดเชื้อรา
และคาร์โมไมล์ที่ใช้ชงชาดื่มรักษาอาการนอนไม่หลับ
นอกจากนี้ยังมีกลวิธีและเคล็ดลับสุขภาพอีกมากมายที่ใช้กันในปัจจุบันและจะกลายเป็นมรดกตกทอดไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเราต่อไป
อาทิ
·
ครีมที่ผสมสมุนไพรอาร์นิกา (arnica) รักษาอาการฟกช้ำให้หายเร็วขึ้น และบรรเทาปวดด้วย
เพราะสมุนไพรชนิดนี้มียาแก้ปวดตามธรรมชาติ และมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบ
·
น้ำผึ้งผสมโยเกิร์ตสามารถลบเลือนรอยกระสีน้ำตาลบนหลังมือที่มักเกิดขึ้นตามวัย
