วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความดันเลือดสูง


·     
โรคและอาการ
ถ้าคุณมีความดันเลือดสูง แสดงว่าหัวใจของคุณต้องทำงานหนักกว่าปกติในการสูบฉีดเลือดและทำให้เกิดแรงดันต่อหลอดเลือดแดงซึ่งนับว่าอันตราย ถ้าคุณไม่ลดความดันเลือดลง จะยิ่งเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดในสมองแตก/ตีบ หัวใจพิบัติ โรคไตและโรคร้ายแรงอื่นๆ ถ้าความดันเลือดคุณสูงกว่า 140/90 ถือว่าคุณมีความดันเลือดสูง แต่เมื่อใดที่ความดันเลือดสูงขึ้น แพทย์จะแนะนำมาตรการควบคุมความดันเลือดให้คุณได้

แก้ปัญหาเริ่มจากครัว
o   มีการศึกษาในสหรัฐพบว่าการกินอาหารตามแนวทาง DASH (Dietary Approaches to Stop Hypertension) ซึ่งเน้นอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลต่ำ และกินผัก ผลไม้ ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนยมากขึ้น จะช่วยลดความดันเลอดลงได้ในเวลาแค่ 2 สัปดาห์
o   ลดปริมาณเกลือในอาหารให้น้อยลง การกินเกลือมากเกินไปทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้ ส่งผลให้ความดันเลือดเพิ่มขึ้น การวิจัยระบุว่าความดันเลือดลดลงได้มากที่สุดเมื่อคนไข้ปฏิบัติตามแนวทางของ DASH และจำกัดปริมาณโซเดียมที่ได้รับไว้ไม่เกิน 1,500 มก. ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณน้อยกว่าเกลือ 1 ช้อนชาต่อวัน
o   แม้คุณจะไม่เติมเกลือในอาหารเลย แต่คุณอาจะได้รับเกลือที่แอบแฝงมาในอาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์และอาหารกระป๋อง จึงควรอ่านฉลากให้ดีเกี่ยวกับปริมาณโซเดียมหรือเกลือที่ผสมอยู่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเกลือต่ำ ส่วนถั่วหรืออาหารแช่น้ำเกลือบรรจุกระป๋องอื่นๆ ให้ล้างน้ำก่อนนำมาปรุง
o   ระวังขนมปังและขนมอบทั้งหลาย ขนมปังและขนมอบที่วางขายตามร้านเบเกอรี่ส่วนใหญ่มักจะมีเกลือผสมอยู่มาก ดังนั้นจึงควรจำกัดปริมาณอาหารเหล่านี้ไว้ด้วย

“ควร” และ “ไม่ควร” เรื่องอาหาร
o   แม้คุณไม่ได้ควบคุมเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ แต่คุณจะได้ประโยชน์มากมายจากการกินผักสดและผลไม้ ควรกินให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 มื้อ ผักและผลไม้เป็นแหล่งโพแทสเซียม แมกนีเซียม และเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยให้หลอดเลือดแดงแข็งแรง
o   ข้าวตุ๋นหรือโจ๊กข้าวกล้องมีประโยชน์ 2 อย่าง คือ ช่วยลดความดันเลือดและคอเลสเตอรอล เนื่องจากมีเส้นใยที่ละบายได้ในรูปแบบที่เรียกว่าเบตากลูแคน (beta-glucan) ถ้าคุณเริ่มวันใหม่ด้วยข้าวตุ๋นสัก 1-2 ชาม ก็อาจช่วยลดความดันเลือดลงได้
o   ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากผู้ที่ดื่มหนักจะมีความดันเลือดสูง ดังนั้นจึงดื่มไม่เกินวันละ 1 แก้ว สำหรับผู้หญิง และ 2 แล้ว สำหรับผู้ชาย ( 1 แก้ว = 275 มล.)

กำจัดน้ำหนักส่วนเกิน
o   น้ำหนักตัวที่มากเกินปกติจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ความดันเลือดจึงสูงขึ้นด้วย การกำจัดน้ำหนักส่วนเกินออกไปแม้เพียง 5 กก. สามารถความดันเลือดลงได้มากพอสมควร อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วย การพยายามลดน้ำหนักอย่างฮวบฮาบอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้เกิดความเครียด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นได้เช่นกัน

หยุดสูบบุหรี่ดีกว่า
o   เลิกสูบบุหรี่ เพราะสารประกอบในควันบุหรี่มีส่วนทำให้หลอดเลือดแดงแข็ง (เพราะหลอดเลือดถูกทำลาย) ส่วนนิโคตินในบุหรี่ก็ทำให้หลอดเลือดหดตัว ซึ่งจะยิ่งอันตรายสำหรับคนที่เป็นความดันเลือดสูง

ขยับแข้งขยับขา
o   ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งๆ ละ 30 นาทีแม้ว่าคำแนะนำนี้อาจฟังดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก เนื่องจากการออกกำลังกายส่วนใหญ่จะทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นชั่วขณะ แต่ถ้าคุณออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ความดันเลือดในเวลาปกติของคุณอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะวิ่ง เดินเร็วๆ ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย

 เกิดจากความจ้อกแจ้กจอแจแถวบ้านหรือเปล่า
เรารู้ดีว่าการต้องเผชิญสภาพการจราจรที่หนาแน่น ติดขัดสามารถทำให้ทั้งเหนื่อยและเครียดเพียงใด ล่าสุดมีงานวิจัยในเยอรมนีระบุว่า แค่เสียงดังจากการจราจรคับคั่งก็ทำให้ความดันเลือดพุ่งสูงขึ้นได้แล้ว การวิจัยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่างผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบที่มีการจราจรหนาแน่น กับผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ในแถบที่เงียบสงบกว่าแล้วผู้ที่อยู่ในถิ่นที่มีการจราจรหนาแน่นมีความเสี่ยงต้องเข้ารับการรักษาความดันเลือดสูงมากกว่าถึง 2 เท่า โดยเฉพาะคนที่เปิดหน้าต่างตอนกลางคืนจะมีความเสี่ยงสูงที่สุด

ทดสอบความดันเลือดด้วยตนเอง
ตามปกติคนที่มีความดันเลือดสูงมากจนต้องใช้ยาลดความดันเลือดต้องไปให้แพทย์ตรวจวัดความดันเลือดทุก 1-3 เดือนอยู่แล้ว แต่ถ้าความดันเลือดสูงไม่มาก แพทย์อาจไม่ให้กินยาแต่แนะนำให้ปรับเปลี่ยนวิถีและอาหารการกินแทน แล้วจังไปตรวจสุขภาพอีก ในระหว่างนี้คุณอาจติดตามความก้าวหน้าของตัวเองโดยซื้อเครื่องวัดความดันเลือดมาใช้เอง ซึ่งมีทั้งที่เป็นแบบ automate สามารถอ่านตัวเลยหน้าจอได้เลย ใช้ง่ายแต่ราคาแพง ส่วนอีกชนิดคือแบบที่ต้องการค่าจากหน้าปัดนาฬิกาและใช้คู่กับหูฟัง วิธีวัดคือ พันผ้าที่วัดความดันรอบแขนให้แน่น กดหูฟังไว้ที่พับข้อศอก จากนั้นก็สูบลมเข้าไปในถุงลมจนไม่ได้ยินเสียงเต้นของหลอดเลือดแดง แล้วค่อยๆ ปล่อยลมออก เมื่อได้ยินเสียงเต้นของหลอดเลือดแดงตุบแรก ให้ดูที่หน้าปัดว่าขึ้นไปถึงเลขใด ก็คือค่าความดันเลือดตัวบน (ความดัน systolic) จากนั้นปล่อยลมออกจากถงทีละน้อยจนเข็มวัดลงลงเรื่อยๆ เมื่อเสียงเต้นของหลอดเลือดแดงหายไปเป็นครั้งแรก ให้ดูเข็มวัดที่หน้าปัด จะเป็นค่าความดันเลือดตัวล่าง (diastolic) หากไม่แน่ใจ คุณสามารถศึกษาวิธีใช้จากแพทย์หรือผู้ขายให้เข้าใจเสียก่อนได้

แสวงหาความสงบสุข
o   ลองหาสัตว์เลี้ยงมาไว้สักตัว การพาสุนัขไปเดินเล่น นั่งเล่นกับแมวที่บ้าน หรือการนั่งดูปลาว่ายไปมาในตู้ ช่วยให้ความดันเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
o   หัดทำสมาธิ การวิจัยระบุว่าการนั่งสมาธิช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย จึงส่งผลต่อความดันเลือดด้วย คุณอาจเริ่มจากการเลือกคำหรือวลีง่ายๆ จากนั้นหลับตาลงและปล่อยกล้ามเนื้อทุกส่วนให้ผ่อนคลาย หายใจช้าๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ออกเสียงคำหรือวลีดังกล่าวทุกครั้งที่หายใจออก ทำใจและความคิดให้นิ่งเฉยโดยเพ่งสมาธิไปที่ถ้อยคำและการหายใจของคุณเท่านั้น ทำเช่นนี้ 10-20 นาที วันละ 1-2 ครั้ง
o   งานอดิเรกอย่างการทำสวน เล่นดนตรี หรือเย็บปักถักร้อย ก็มีประโยชน์เช่นเดียวกับการทำสมาธิ

เสริมเพื่อลด
o   กินแมกนีเซียมเสริม ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อผนังหลอดเลือดแดงคลายตัว ทำให้หลอดเลือดแดงเปิดกว้าง แมกนีเซียมมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการลดความดันเลือดสูงที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ แต่หากคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเสมอ ถ้าจะกินในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรเลือกในรูปแมกนีเซียมซิเตรต (magnesium citrate) หรือแมกนีเซียมกลูโคเนต (magnesium gluconate) ซึ่งอ่อนโยนต่อระบบย่อยมากกว่า อย่าลืมกินแคลเซียมเสริมด้วย โดยกินห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้มีการดูดซึมมากที่สุด ขนาดที่แนะนำสำหรับลดความดันเลือดคือ แมกนีเซียมวันละ 400 มก. และแคลเซียมวันละ 1,000 มก.
o   กินสารสกัดฮอว์ทอร์น (hawthorn) วันละ 100-150 มก. โดยเลือกชนิดสารสกัดมาตรฐานที่มีไวเท็กซิน (vitexin) อย่างน้อย 1.8% สมุนไพรชนิดนี้จะช่วยขยายหลอดเลือดด้วยการขัดขวางการทำงานของเอนไซม์เอซีอี (angiotensin-converting enzyme : AEC) ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ตามปกติยาลดความดันเลือดที่แพทย์ใช้มักช่วยยับยั้งเอนไซม์ตัวนี้อยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าคุณกำลังกินยาลดความดันเลือดอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนจะกินสมุนไพรชนิดนี้ ฮอว์ทอร์นสกัดอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือนกว่าจะสะสมจนออกฤทธิ์เต็มที่
o   กระเทียมช่วยลดความดันเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำให้กินกระเทียมสดวันละกลีบ ขณะที่อีกหลายคนแนะนำให้กินแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เท่ากับกระเทียมสด 4 กรัมต่อวัน โดยควรเลือกชนิดที่เป็นแคปซูลเคลือบสำหรับการดูดซึมในลำไส้เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
o   กินน้ำมันปลาเสริมเพื่อเพิ่มกรดไขมันโอเมก้า-3 กรดไขมันจำเป็นชนิดนี้ ช่วยยับยั้งการผลิตสารที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว เช่น สารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandin) ขนาดที่ใช้คือ น้ำมันปลา 1,000 มก. กินวันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและลดความดันเลือด ถ้าไม่กินรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณอาจกินปลาที่มีไขมัน เช่น แม็กเคอเรล และแซลมอน หรือคุณอาจกินน้ำมันปอ (flaxseed oil) วันละ 1 ช้อนโต๊ะ โดยผสมในน้ำผลไม้หรือน้ำสลัดก็ได้

เมื่อใดควรพบแพทย์
ถ้าตรวจพบความดันเลือดสูง ขอให้พบแพทย์ทันที ถ้าคุณปวดศีรษะเรื้อรัง ใจสั่น หายใจหอบ อ่อนเพลีย เลือดกำเดาไหล ตาพร่า หน้าแดง ปัสสาวะบ่อย หรือหูอื้อ เป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องความดันเลือด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น